บทที่ 2 ตอนที่ 2
ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่หลายสิบต้นเบื้องหน้าคือคฤหาสน์สุดหรูสไตน์เฟรนซ์ ฟอร์มัล (French Formal) ของตระกูลการ์รัสโซ่ ด้วยพื้นที่โดยรอบตัวคฤหาสน์เกือบหนึ่งร้อยห้าสิบเอเคอร์ ทำให้คฤหาสน์หลังงามแห่งนี้กลายเป็นบ้านของผู้มีอันจะกินที่ใหญ่ที่สุดในตุรกีเลยทีเดียว สถานที่ที่เสมือนเป็นสวรรค์บนดินแห่งนี้ตั้งอยู่บนทัศนียภาพอันแสนงดงาม คือด้านหลังเป็นภูเขาที่ดาษดื่นไปด้วยเหล่าแมกไม้ ขณะที่ด้านหน้าเป็นชายหาดขาวสะอาดที่กั้นกลางระหว่างพื้นดินและผืนน้ำทะเลสีฟ้าครามเอาไว้ ดังนั้นจึงไม่ผิดอะไรที่ทุกคนที่ได้เห็นคฤหาสน์การ์รัสโซ่จะขนานนามให้มันว่า ‘การ์รัสโซ่ พาราไดส์’
การ์รัสโซ่ พาราไดส์ ถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุคุณภาพดีเยี่ยมจากทั่วทุกมุมโลก ตัวอาคารขนาดสามชั้นล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือของสถาปนิกชื่อดังก้องโลก ด้านนอกถูกปูด้วยหินปูนสีขาวที่นำเข้ามาจากฝรั่งเศสขณะที่ด้านในเคลือบด้วยทองคำ 24 กะรัต อาณาเขตรอบๆ คฤหาสน์หลังงามหลังนี้ยังถูกล้อมรอบไปด้วยสวนสวยๆ ที่มีกลิ่นไอของยุโรปขนานแท้ มีสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ (Infinity Edge) ที่ลึกกว่า 4 เมตรและมีความยาวเกือบ 150 เมตร นอกจากนั้นการ์รัสโซ่ พาราไดส์ยังประกอบไปด้วยโรงจอดรถขนาดใหญ่ ลานจอดเครื่องบินเจท ห้องจัดเลี้ยง โรงหนังส่วนตัว สนามเทนนิสส่วนตัว สระว่ายน้ำในร่ม และสนามสควอชกีฬาสุดโปรดของเหล่าหนุ่มๆ การ์รัสโซ่ทั้งห้าคน
และนอกจากความอลังการภายนอกตัวบ้านแล้ว ภายในคฤหาสน์ยังสะดุดตาด้วยการตกแต่งที่หรู เริ่ด อลังการ และเต็มไปด้วยรายละเอียดในทุกมุมมอง ที่สำคัญเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งทุกชิ้นล้วนแต่เป็นของมีราคาแพงระยับแถมยังทำมาจากวัสดุชั้นเยี่ยมที่หายากทั้งสิ้น โดยเฉพาะในห้องรับแขกแสนโอ่อ่าที่ตอนนี้มีร่างสูงใหญ่ราว 6 ฟุต 3 นิ้วยืนโทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษเร็วปรื๋อนั้นถูกตกแต่งอย่างประณีตงดงามด้วยนักออกแบบภายในมือหนึ่งของโลก
ราฟาล การ์รัสโซ่ พี่ใหญ่ของตระกูลการ์รัสโซ่ หย่อนโทรศัพท์ราคาแพงระยับของตัวเองลงกระเป๋ากางเกง ก่อนจะทรุดกายกำยำลงนั่งบนโซฟาหนังแท้ที่ราคาแพงกว่ารถญี่ปุ่นสองคันรวมกันเสียอีกแรงๆ ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรเคร่งเครียดถมึงทึง ทำเอารดารักษ์สาวใช้วัยยี่สิบปีที่กำลังจะนำกาแฟมาเสิร์ฟถึงกับชะงักเท้าอยู่ปากประตูด้วยความขลาดกลัวขึ้นมาในทันที
“เข้ามาสิ ยืนเซ่ออยู่ทำไม?”
เสียงกระด้างไม่เป็นมิตรเลยของราฟาลผู้ชายเกินเอื้อมที่หล่อนบังอาจไปหลงรักดังขึ้นทั้งๆ ที่เขาไม่ได้หันมามองด้วยซ้ำ เท้าที่ตายอยู่ยิ่งตายสนิทมากขึ้นไปอีก มือบางที่ถือถ้วยกาแฟอยู่สั่นระริกจนเจ้าน้ำกาแฟสีคล้ำในถ้วยแทบจะกระฉอกออกมา
“เอ่อ...”
“ทำไม? มันมีอะไรนักหนาฮึ รดา... ทำไมจะต้องทำท่าหวาดกลัวนักเวลาอยู่กับฉัน...”
คราวนี้คนตัวโตตวัดตามาจ้องมองเขม็ง และมันก็มีผลทำให้หญิงสาวหายใจไม่ออกขึ้นมากะทันหัน เพียงแค่สบตากับผู้ชายตาหวานฉ่ำตรงหน้าเท่านั้นเอง ราฟาลหล่อมาก หล่อคมเข้มได้อย่างเหลือเชื่อ ผิวกายของชายหนุ่มขาวสะอาด ดวงตาคมกริบหวานฉ่ำชนิดที่สาวๆ หลายคนยอมดิ้นตายเพื่อให้ได้ดวงตาแบบนี้มาครอบครอง จมูกโด่งเป็นสันแบบผู้ดี ขณะที่ริมฝีปากสีแดงสดได้รูปนั้นช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก
หล่อนจะมีอาการหัวใจเต้นแรงเร็ว รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งกายเสมอหากได้อยู่ใกล้กับเทพบุตรมารคนนี้ ทั้งๆ ที่น้องชายของเขาทั้งสี่คนก็หล่อลากไส้ไม่แพ้กัน แต่แปลกนักที่หล่อนกลับมีความรู้สึกตื่นเร้ากับเขาเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ยิ่งยามที่ราฟาลพาผู้หญิงมาค้างคืนที่บ้านด้วยแล้ว เจ้าความรู้สึกหึงหวงน่าละอายมันก็แล่นเข้ามาครอบงำเสียทุกทีไป แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าผู้หญิงพวกนั้นก็มีสิทธิ์มาที่นี่แค่ครั้งเดียว คืนเดียวเท่านั้นก็ตาม
หล่อนหลงรักราฟาล... นี่แหละคือคำตอบของทุกสิ่ง...
“รดาเปล่า...”
ราฟาลผุดลุกขึ้นยืน ดวงตาหวานฉ่ำที่อยู่ใต้ปื้นคิ้วดกดำตวัดจ้องมองใบหน้าขาวสะอาดของแม่สาวใช้คนไทยเขม็ง แม่ผู้หญิงที่เขาไม่อยากเห็นหน้าเอาเสียเลย
“หุบปาก รีบเอากาแฟมาวาง แล้วก็รีบไปให้พ้นหน้าฉันซะ...”
“ค่ะ คุณราฟ...”
หญิงสาวรับคำเสียงสั่นเทา ความน้อยใจทำให้น้ำตาซึมที่ขอบตา ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมราฟาลถึงต้องแสดงท่าทางรังเกียจหล่อนแบบนี้ด้วย ทำไมเขาจะต้องตีหน้ายักษ์ใส่หล่อนทุกครั้งยามที่หล่อนเข้าใกล้ รดารักษ์พยายามสะกดกลั้นความเจ็บปวดทุกอย่างเอาไว้ภายในอก มือบางวางถ้วยกาแฟลงกับโต๊ะกระจก ก่อนจะถอยออกไปยืนรอรับคำสั่ง แต่ราฟาลกลับไม่ต้องการซะงั้น เขาเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาไร้ความรู้สึก ก่อนพ่นวาจาเลือดเย็นออกมา
“ยังจะยืนบรื้ออยู่ทำไมล่ะ ไปสิ!”
สาวน้อยสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะรีบก้มหน้ารับคำสั่งนั้น “ค่ะ คุณราฟ...”
ในที่สุดก็ต้องหมุนตัวและเดินจากไปช้าๆ หัวใจมีเลือดไหลทะลักออกมาอีกแล้ว แต่เท้าบางยังไม่ทันจะก้าวพ้นปากประตูเสียงห้าวสุดกระด้างของราฟาลก็ดังขึ้นซะก่อน มันหยุดการเคลื่อนไหวของหล่อนทั้งหมด ยกเว้นหัวใจที่เต้นแรงระรัว แค่ได้เห็นเขาเรียกชื่อตัวเองเท่านั้น ร่างกายของหล่อนก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แถมบางส่วนของร่างกายยังรู้สึกเบ่งบานจนอึดอัดอีกต่างหาก มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อนเลย นอกจากราฟาล การ์รัสโซ่คนนี้ ผู้ชายที่หล่อนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดรัก
รดารักษ์ค่อยๆ หันกลับไปเผชิญหน้ากับเทพบุตรมารอีกครั้ง ด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่กลีบปาก แต่รอยยิ้มนั้นก็ต้องมีอันต้องจางลงทันควันเมื่อสองหูได้ยินคำพูดของผู้ชายหล่อระเบิดตรงหน้าชัดเจน
“ถ้าจำไม่ผิด... ฉันเคยสั่งแล้วใช่ไหมว่าห้ามเธอเข้ามาใกล้ฉัน...”
